CF:บทที่ 297 ความลับแห่งเขตที่ 51

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 297 ความลับแห่งเขตที่ 51


เมื่อเขาตื่นขึ้นในตอนเช้า เขาก็ได้ยินจากพ่อเขาว่าลุงไม่อยากจะกลับมา อู๋ ฮ่าวเหรินทำได้เพียงแต่ส่ายหัวเท่านั้น ให้พ่อและปู่จัดการกับเรื่องนี้ไป เขาไม่ได้เตรียมจะถามอะไร


อย่างไรก็ตาม จากปากของน้องสาวเขา ได้ข่าวว่าหลิงเหมิงเสวี่ยฟื้นตัว จากนั้นเขาจึงขอให้จี้ตรวจสอบข้อมูลร่างกายของหลิงเหมิงเสวี่ยอีกครั้ง ปฏิกิริยาทางจิตก็ฟื้นตัวแล้วเช่นกัน


การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เขารู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่ามันอาจมีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของหลินหยิ่งและอารยธรรมของพาลอส


โชคร้ายที่คนที่รู้เรื่องนี้มากที่สุดมีเพียงแต่เทพสงครามแห่งโลกอนาคต อู๋ ฮ่าวเหรินกลัวที่จะติดต่อกับพวกเขาตอนนี้ เขากังวลเกี่ยวกับการเปิดเผยการติดต่ออย่างมาก


อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้เลยว่า ในอีกฝากหนึ่งของโลก ณ อเมริกาผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังเฉลิมฉลองกันในห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์


“แลร์รี่ นายประมาณได้รึเปล่าว่าโลกแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะต้องใช้เวลาไปกับของพวกนี้กี่ปี?”


“ตอนนี้มันก็ยังไม่ชัดเจน มันเพิ่งเจาะไปได้เพียงชั้นเดียว แล้วมันก็ยังมีอีกหลายชั้นอยู่ข้างใต้อีก ตามสภาพแล้วมันเหมือนกับห้องนั่งเล่นมากกว่า ซึ่งไม่มีเทคโนโลยีทรงพลังอะไรมากนัก”


“เราต้องรีบแล้ว นายได้อ่านข้อมูลของฟิวเจอร์กรุ๊ปรึยัง คิดว่าสถานการณ์ของบริษัทนั่นอาจจะเป็นเหมือนเราตอนนี้รึเปล่า?”


แลร์รี่ส่ายหัวและพูดว่า “บรูค บริษัทนั่นเป็นเหมือนเราไม่ได้หรอก ฉันค่อนข้างคิดว่าเขาพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีที่ต้องใช้เทคโนโลยีนั้นในการพัฒนา นายไม่คิดว่าบริษัทแบบนั้นจะมีเทคโนโลยีเครือข่ายทรงพลังบ้างรึ?”


แลร์รี่หยิบสิ่งของที่หน้าตาเหมือนปืนขึ้นมา กดมันสองครั้งแล้วหยิบบางอย่างที่เหมือนถังพลังงานออกมา และพูดว่า “ดูสิ นี่คือเทคโนโลยีต่างดาว ถ้าเผยแพร่ออกไปมันก็จะเปลี่ยนโลกได้เลย ตราบใดที่เราเชี่ยวชาญเทคโนโลยีนี้แล้ว เป้าหมายของเราก็จะเป็นจักรวาลอันไร้ขอบเขต”


ถ้าอู๋ ฮ่าวเหรินอยู่ตรงนี้ด้วย เขาคงจะตกใจว่านี่คือปืนพลังงาน ยิ่งกว่านั้นมันยังดูเหมือนว่าระดับของเทคโนโลยีของปืนพลังงานนี้ยังเป็นระดับสูงอีกด้วย


อู๋ ฮ่าวเหรินอาจจะตกใจหนักยิ่งขึ้นไปอีกเพราะที่ๆพวกเขาอยู่มันคือยานรบอวกาศที่อยู่สภาพคว่ำลงพื้น


บอกได้เลยว่า มันคือยานรบที่เคยมาที่โลก แต่ภายหลังเกิดอะไรสักอย่างทำยานรบร่วงลงที่นี่


ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน คนอื่นก็เจออะไรบางอย่าง


“ดูนี่สิ มันคืออะไรกัน? อย่างกับคอมพิวเตอร์เลย”


“ต้องมีปุ่มเปิดเครื่องอยู่สักที่สิ เราต้องหามันให้เร็วเลยมันต้องมีข้อมูลที่เราต้องการแน่นอน”


กลุ่มคนเริ่มมองหาปุ่มหน้าเครื่องฉายภาพ ไม่ช้าพวกเขาก็เจอลวดลายที่คล้ายกับปุ่มเปิดเครื่องอยู่ด้านบน


ทุกคนมารวมตัวกัน มีคนพยายามกดที่ลวดลายนั้นแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“ดูนี่สิ”


ชายคนหนึ่งคลำไปทั่วลวดลายนั้นก่อนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ววิ่งไปหยิบตราที่ลวดลายเหมือนกันมาจากของประหลาด


เมื่อวางตราลงบนลวดลายนั้นก็เกิดแสงสว่างขึ้น ข้อมูลมารวมตัวกันในอากาศและภาพแปลกๆก็ปรากฏขึ้น


ภาพได้หายไปในเวลาอันสั้น บนหน้าจอกลุ่มข้อมูลกำลังไปเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว


เมื่อภาพได้หายไป แหล่งแสงเล็กๆที่แทบมองไม่เห็นก็หายไปในอากาศนอกยานรบที่คว่ำอยู่


กลุ่มคนไม่เข้าใจว่าสัญลักษณ์เมื่อครู่หมายถึงอะไรกันแน่ ยังคงมึนงงขณะที่จ้องไปยังหน้าจอที่ดำสนิท


“น่าจะเป็นเพราะมันใช้พลังงานจนหมดแล้ว ช่างมันเถอะต่อให้เปิดมันได้เราก็ไม่เข้าใจคำสักคำที่อยู่ในนั้นแน่นอน เรายังต้องหาอาวุธและอุปกรณ์อื่นๆที่นี่ต่อไป”


กลุ่มคนเหล่านี้ไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเขาได้เปิดกล่องแพนโดร่าและส่งสัญญาณที่ไม่ควรส่งออกไปเสียแล้ว


“อาวุธพลังงาน นี่ต้องเป็นอาวุธพลังงานอย่างแน่นอน” ชายคนหนึ่งร้องตะโกนพร้อมกับปืนพลังงานที่รูปร่างเหมือนกับเครื่องยิงขีปนาวุธในมือ


ตอนนี้สิ่งของต่างๆในห้องเปลี่ยนไปโดยน้ำมือพวกเขา ทุกอย่างที่พวกเขาหาได้ก็หยิบไปหมดราวกับโจร


“เปิดชั้นที่สองได้รึเปล่า?”


“ไม่ได้เลย การป้องกันของชั้นที่สองนั้นแข็งแรงกว่ามากจนเราเจาะเข้าไปไม่ได้”


“มันไม่สำคัญหรอก ตราบใดที่เราศึกษาอุปกรณ์พวกนี้อย่างถี่ถ้วนแล้วล่ะก็ เราจะลองใช้อาวุธพวกนั้นกับมัน” ชายแก่คนหนึ่งกล่าว ในมือถือปืนพลังงานไว้อยู่


กลุ่มคนเหล่านี้ขนทุกอย่างออกมาจากห้อง ด้านนอกเป็นห้องวิจัยขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับมันอยู่


จากสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้วมันน่าจะเป็นสักที่ที่อยู่ใต้ดิน ในห้องวิจัยก็มียามหลายคนในชุดป้องกันตรวจตราอย่างรอบคอบ


“มาเริ่มกันเถอะ ตราบใดที่เราวิจัยเทคโนโลยีนี้สำเร็จ ต่อให้พวกเขาพัฒนาหุ่นยนต์รบมาพวกเขาก็ไม่ใช่คู่มือของเราหรอก”


เมื่อประธานาธิบดีของอเมริกาที่อยู่ในห้องประชุมห้าเหลี่ยม รู้เรื่องนี้จากหัวหน้าทหารจำนวนหนึ่งก็ยิ้มอย่างตื่นเต้น


ช่วงนี้พวกเขากำลังหดหู่ด้วยอะไรบางอย่าง อย่างแรกคือการศึกษาแรงขับเคลื่อนก็ใช้นักวิจัยคนสำคัญของพวกเขาไปตั้งสี่คน แต่ปัจจุบันความคืบหน้าก็ยังคงล่าช้าอย่างมาก แต่ก็มีข่าวจากจีนว่ารถจากแรงขับเคลื่อนเช่นนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นที่นั่นแล้ว


แล้วไหนจะเรื่องอุปกรณ์รักษามะเร็ง พวกเขาก็ผิดหวังในจีนอีกครั้ง ด้วยสูตรพวกนั้นพวกเขาก็ยังหาทางสร้างยาไม่ได้อยู่ดี


แต่วันนี้ หลังจากได้ยินข่าวดีจากเขตที่ 51 ความรู้สึกอึดอัดเหล่านั้นก็หายไป


“ให้พวกเขาเร่งความคืบหน้าและสร้างผลงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราต้องให้โลกรู้ว่าอเมริกาคือประเทศที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุด”


อู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้เลยว่าปรากฎการณ์ผีเสื้อกระเพือปีกได้เริ่มขึ้นแล้ว อเมริกาซึ่งกำลังศึกษาเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างลับๆ จะเริ่มใข้อาวุธเพื่อประกาศว่าใครคือผู้นำของโลก เนื่องจากการปรากฏขึ้นของเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆของฟิวเจอร์กรุ๊ป


ขณะนี้ เขามาที่บริษัทจากบ้านเห็นโจ้ว เซว่หองและศิษย์ของเขากำลังรออยู่ในโถงรับแขก


โจว ซูหงเห็นอู๋ ฮ่าวเหรินเดินเข้ามาจึงยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเจิ้ง หมิงเจิน


เห็นทั้งสองแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็ถามด้วยความสงสัย “มาทำอะไรที่นี่?”


“คุณอู๋ ผมมาที่นี่เพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีหุ่นยนต์”


“บอกแล้วไงว่าอย่ามาเรียกฉันว่าอาจารย์ เรียกว่าเสี่ยวอู๋ หรือฮ่าวเหรินก็ได้ โจว เหลามีปัญหาอะไรกับหุ่นยนต์ที่นายกำลังศึกษางั้นรึ?”


พอเห็นพนักงานเดินเข้ามา อู๋ ฮ่าวเหรินจึงพูดต่อว่า ”ไปห้องประชุมแล้วค่อยคุยกันเถอะ”


เมื่อเข้าไปในห้องประชุมแล้ว โจว ซูหงก็พูดว่า “ตอนนี้เราได้ดัดแปลงหุ่นยนต์แล้ว ดูแบบแปลนนี่สิ ปัญหาหลักคือถึงระบบพลังของหุ่นยนต์จะทรงพลังมากกว่า แต่การตอบสนองจะช้ากว่าจังหวะหนึ่งเลย”


อู๋ ฮ่าวเหรินฟังสิ่งที่เขาพูดแล้วดูแบบแปลนของหุ่นยนต์และข้อมูลการทดสอบ ตอนนี้คนพวกนี้ได้ติดตั้งอาวุธพลังงานลงในหุ่นแล้ว โครงสร้างก็ถูกปรับปรุงและตอนนี้หุ่นยนต์ก็ดู “บาง” ถ้าเป็นแบบนี้หุ่นยนต์ก็จะเร็วและคล่องตัวมากขึ้น


แน่นอนว่าด้วยการใช้อาวุธพลังงาน อัตราการใช้พลังงานก็จะเพิ่มขึ้น และพลังในการป้องกันก็จะลดลง


“นี่นายจะใช้หุ่นยนต์เป็นอาวุธจู่โจมงั้นรึ?”


เจิ้ง หมิงเจินตอบว่า “ใช่แล้ว ตอนนี้การป้องกันของหุ่นยนต์นั้นแย่ เราควรจะเพิ่มความเร็วของหุ่นเพื่อจะได้ไม่ถูกใครโจมตีโดน ตอนนี้มันวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดได้ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมาะที่จะโจมตีศัตรูจากด้านข้าง


อู๋ ฮ่าวเหรินพยักหน้า และไม่ช้าเขาก็นึกได้ว่าหุ่นแบบนี้มียังปัญหาอยู่


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น