CF:บทที่ 264 สายลับปฏิบัติภารกิจ

นิยายลงทุกวัน เวลา 6.00 น. ส่วนเรื่องไหน จำนวนกี่ตอนนั้น สามารถดูได้ ที่นี่

CF:บทที่ 264 สายลับปฏิบัติภารกิจ

 

ตอนนี้รัฐบาลต่างประเทศได้รู้แล้วว่าทางรัฐบาลจีนได้จัดตั้งสถาบันวิจัยร่วมขึ้นในหลี่ฉุย ในขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปในโครงการผลิตรถยนต์ และทางหน่วยข่าวกรองยังได้แจ้งมาอีกว่าพวกเขานั้นมีเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนที่แม่นยำกว่าจากฟิวเจอร์กรุ๊ปอีกด้วย

 

ยิ่งไปกว่านั้น, สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจมากที่สุดคือ ทางรัฐบาลจีนได้ทำการเคลื่อนย้ายสถาบันวิจัยหุ่นยนต์ไปที่อำเภอหยุนหลงและเตรียมพร้อมที่จะร่วมมือกับฟิวเจอร์กรุ๊ปในด้านของการวิจัยหุ่นยนต์

 

ในเรื่องของวิทยาการหุ่นยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น ก็ตกเป็นเป็นเป้าในการสอดแนมของประเทศเหล่านี้ไปแล้ว จากข้อมูลที่ได้รับมาพบว่า เทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นสุดยอดมาก และเหมือนกำลังจะช่วยทางสถาบันวิจัยให้ผลิตหุ่นยนต์ที่สามารถต่อสู้ได้ขึ้นมา

 

ด้วยข้อมูลความลับที่พวกเขาได้รับมาเหล่านี้, บางประเทศก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้หลังจากที่พวกเขาได้ทราบข่าว

 

ถ้าพวกเขาปล่อยให้จีนนั้นเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนที่ล้ำสมัยแล้ว, สิ่งที่เรียกว่าการปิดกั้นเทคโนโลยีนั้นก็คงเป็นแค่เรื่องตลกไป

 

"ไปตรวจสอบเรื่องนี้มา จะใช้บุคลากรทั้งหมดที่เรามีก็ได้, พวกเราจะต้องรู้ให้ได้ว่าเทคโนโลยีด้านการผลิตชิ้นส่วนของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นไปถึงขั้นไหนได้แล้ว"

 

ประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกคำสั่งไปยัง CIA, และให้รวบรวมเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองจัดตั้งทีมเพื่อมุ่งไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ป

 

ถ้าเป็นอย่างอื่นที่ล้ำหน้าพวกเขา พวกเขาจะไม่สนใจเลย แต่เรื่องของเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัยและอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูงสองอย่างนี้แหละ ที่ทำให้พวกเขากังวลขึ้นมา

 

ถ้าพวกเขานั้นไม่รู้ว่าเทคโนโลยีการผลิตของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นมีประสิทธิภาพมากเพียงใด ก็จะเป็นการยากสำหรับพวกเขาที่จะประเมินเรื่องของการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมของจีน ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับการประเมินด้านกำลังทางทหาร

 

อุตสาหกรรมด้านการผลิตชิ้นส่วนของจีนนั้นถือเป็นจุดอ่อนมาโดยตลอดและอาวุธที่ทรงพลังของประเทศทางตะวันตกก็ก้าวล้ำจีนมาโดยตลอด, แต่ถ้าเมื่อใดที่จีนเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนที่มีความเที่ยงตรงสูงนี้ขึ้นมาเมื่อไร, พวกเขาก็มิอาจที่จะจินตนาการได้ถึงประเทศที่เติบโตเร็วนี้จะนำพาโลกไปในทิศทางใด

 

ในฐานะที่เป็นประเทศที่ก้าวล้ำนำจีนมาโดยตลอดนั้น, สหรัฐอเมริกาจึงเป็นประเทศที่เป็นกังวลมากที่สุดในเวลานี้ ในบรรดาประเทศต่างที่มองเห็นความสำคัญของเรื่องนี้

 

ซึ่งอีกประเทศก็คือญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าพวกเขาจะต้องเจอกับกองทัพจีนก่อนใคร ถ้ากำลังทางทหารของจีนนั้นก้าวล้ำกว่าใครขึ้นมา

 

ในโลกนี้, ขอเพียงมีกำลังทางทหารที่ยิ่งใหญ่พอคุณก็มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ นั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมสหรัฐอเมริกาถึงสามารถทำตัวเป็นอันธพาลไปทั่วทุกที่ที่มีกองกำลังทหารของพวกเขาประจำการอยู่ได้

 

ในเมืองหลี่ฉุย, มีกลุ่มคนที่ดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษอยู่ เป้าหมายของพวกเขาคือสถาบันวิจัยร่วมที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งทุกคนที่นั่นคือเป้าหมายในการหาข่าวของพวกเขา

 

มีสาวสวยที่อยู่ในชุดเซ็กซี่และมีร่างกายที่เย้ายวนปรากฏตัวถี่ขึ้นในบริเวณรอบๆสถาบันวิจัยร่วม เป้าหมายของพวกเธอคือการใช้สเน่ห์เพื่อล่อลวงนักวิจัยในสถาบันแห่งนี้

 

แต่ทว่า,

หลายวันมานี้ทำให้ผู้หญิงเหล่านี้รู้สึกสับสนขึ้นมา, เพราะพวกเธอนั้นไม่พบเป้าหมายของพวกเธอเลย ซึ่งนักวิจัยเหล่านั้น ไม่มีใครออกมาข้างนอกสถาบันกันเลย

 

"นิโคล, คุณคิดว่าพวกนักวิจัยพวกนี้มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า? ฉันมาสอดแนมที่นี่ได้หลายวันแล้ว, แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครออกมาจากสถาบันวิจัยกันเลย"

 

ในห้องที่ปิดสนิท, มีเหล่าสายลับหญิงที่มารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่รวบรวมมาได้ในหลายวันที่ผ่านมานี้

 

"ฉันไม่ได้อะไรเพิ่มเติมเลย มีพวกเจ้าหน้าที่คอยตามฉันตลอดด้วย ไม่มีโอกาสได้เริ่มทำอะไรเลย"

 

"ฉันได้อะไรบางอย่างมาด้วย, แต่ดูเหมือนจะเป็นรูปวาดชิ้นส่วนอะไรบางอย่าง"

 

เหล่าหน่วยข่าวกรองต่างก็มองดูรูปวาด แล้วก็ส่ายหัวก่อนจะพูดขึ้น "รูปวาดชิ้นส่วนพวกนี้มันเปล่าประโยชน์ เพราะพวกเขาได้เผยแพร่ให้สำนักงานสิทธิบัตรไปแล้ว มันเป็นข้อมูลที่รู้กันไปทั่วแล้ว"

 

แน่นอนว่า ที่หน่วยข่าวกรองรวบรวมข้อมูลกันอยู่หลายวันนั้น พวกเขาได้ข้อมูลมาเพียงนิดเดียวส่วนใหญ่ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความลับอะไร

 

พวกเขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าในสถาบันวิจัยนั้น เหล่าช่างเทคนิคได้พยายามกันอย่างเต็มความสามารถเพื่อที่จะเรียนรู้เทคโนโลยียนตกรรมที่ล้ำสมัยนี้เพื่อที่จะได้เป็นการไม่เสียหน้าสถาบันของพวกเขา

 

ดังนั้น สำหรับสายลับพวกนั้น ถ้าพวกเขาต้องการที่จะรออยู่เพียงด้านนอกเพื่อรอให้เหล่าช่างเทคนิคออกมากนั้น พวกเขาคงจะต้องรอให้ช่างเทคนิคพวกนี้ศึกษาเทคโนโลยีเหล่านี้จนจบหมดนั้นแหละ พวกเขาถึงจะมีเวลาได้พัก

 

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงพวกเขาจะออกมาข้องนอกได้ เหล่าสายลับพวกนี้ก็ไม่มีโอกาสอยู่ดี เพราะพวกช่างเทคนิคพวกนี้จะอยู่ภายใต้การจับตาดูของทางประเทศ

 

ในเวลานี้เอง, ที่ห้องประชุมของฟิวเจอร์กรุ๊ป, อู๋ฮ่าวเหรินมองดูซ่งยูหมิงที่มาปรากฏตัวอีกครั้ง โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของเขา, เขากำลังคิดอยู่ว่าคนๆนี้มาทำอะไรที่นี่อีกแล้ว

 

ซ่งยูหมิงมองดูอู๋ฮ่าวเหรินและพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น "ประธานอู๋, ผมคิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะได้มาเจอกันอีกครั้งแบบนี้ มันทำให้ผมตกใจจริงๆครับ"

 

"อะไรที่คิดไม่ถึง"

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดในใจ,  ไอ้ที่บอกว่าคิดไม่ถึงเนี่ยมันยังดูไม่น่าเชื่อซะยิ่งกว่าอีก นอกจากจะไม่ยอมแพ้แล้ว ยังอุตส่าห์คิดแผนแบบนี้ขึ้นมาได้อีก

 

มันต้องมีอะไรแปลกๆกับเขาแน่ ทำไมคนของทางรัฐถึงได้ไม่ทำอะไร แล้วได้ปล่อยให้คนแบบนี้เดินไปมาในจีนกันได้นะ

 

"ครั้งนี้ผมมาในฐานะของบริษัทเทคโนโลยีเหลยม่าน, ผมต้องการที่จะเจรจากับท่านประธานอู๋เรื่องของรถยนต์ครับ, ผมนั้นทราบมาว่าทางฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นกำลังศึกษาเรื่องรถยนต์กันอยู่ ผมจึงมีเทคโนโลยีบางอย่างที่จะมานำเสนอ, ท่านประธานอู๋จะลองดูก่อนก็ได้นะครับ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินมองดูข้อมูลที่เขาหยิบออกมาจากกระเป๋าเอกสารและสงสัยว่าคนๆนี้ต้องการอะไรกันแน่?

 

เหมือนเคยพูดกันไปครั้งก่อนแล้วว่า, เขานั้นค่อนข้างสนิทกับลู่เผิงเฟยในสมัยที่เขายังทำงานอยู่บริษัทวัสดุนั้น ส่วนบริษัทเหลยม่านนั้นจะมีจริงหรือไม่นั้นไม่สำคัญ แต่ทำไมเขาถึงได้คิดเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับรถยนต์ได้ในชั่วพริบตาขนาดนี้

 

เขามองดูที่ข้อมูลและพบว่าข้อมูลพวกนี้เกี่ยวกับการรักษาสมดุลของยานยนต์ ซึ่งล้ำสมัยมาก มันควรจะเป็นเทคโนโลยีที่ค้นพบโดยบริษัทยานยนต์มากกว่า ดูเหมือนคงมีบางประเทศที่ยอมจ่ายเงินมากขนาดนั้นเพื่อที่ให้คนๆนี้ทำงานให้แน่ๆ

 

อู๋ฮ่าวเหรินคิดอยู่สักพัก เขานั้นคิดจะปฏิเสธไป, แต่เมื่อเขามองมาที่ซ่งยูหมิงแล้ว เขาก็รู้สึกขึ้นมาว่าถ้าเขาปฏิเสธไปเฉยๆ มันก็จะดูน่าสงสารเกินไปสำหรับความพยายามของเขาคนนี้

 

ก็ได้ มาลองวางหลุมพรางดักคนๆนี้ดูดีกว่า ซึ่งในตอนที่เขาวิจัยเรื่องของยนตกรรมอยู่นั้น, ก็มีอยู่หลายจุดที่เขากับจี้ได้ลองผิดลองถูกกันอยู่

 

"เทคโนโลยีนี้ดีมาก, แล้วคุณซ่งต้องการอะไรจากทางเรางั้นหรือครับ?"

 

"พวกเราต้องการที่จะขอความร่วมมือจากฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อลงทุนเรื่องของเทคโนโลยีนี้และเข้าร่วมโครงการยานยนต์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปครับ"

 

"ผมเองก็คิดอยากที่จะลงทุนกับเทคโนโลยีนี้เหมือนกันนะ แต่ในปัจจุบัน, พวกเราได้ร่วมมือกับทางรัฐบาลในโครงการนี้อยู่, ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่ผมไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ครับ"

 

อู๋ฮ่าวเหรินต้องการเวลาสำหรับการวางแผนการ เขาจำเป็นที่จะต้องซื้อเวลาจากคนๆนี้

 

"ได้ครับ ไม่มีปัญหา ผมไม่รีบร้อนอยู่แล้ว, แล้วก็ประธานอู๋ครับ ผมนั้นอยากเห็นรถที่โผล่ในคลิปในอินเตอร์เนทจังเลยครับ ขอผมไปดูหน่อยได้มั๊ยครับ?"

 

อู๋ฮ่าวเหรินตกใจไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ในชั่วพริบตานั้นเขาก็คิดว่าโอกาสมาถึงแล้ว เขาไม่คิดว่าคนๆนี้จะเป็นคนขอมาเอง

 

"จะขอดูรถงั้นเหรอ? ได้สิไม่มีปัญหา, หวังหลาน คุณช่วยพาคุณซ่งลงไปรอผมข้างล่างให้ที เดี๋ยวผมจะไปที่ห้องแล็บเพื่อขับรถออกมาให้คุณซ่งดู"

 

มองดูซ่งยูหมิงที่เดินออกไปกับหวังหลาน อู๋ฮ่าวเหรินก็ยิ้มแบบเล่ห์สนัยขึ้นมา

 

"จี้, รีบเอาเทคโนโลยียานยนต์ที่เพิ่งโละไปเมื่อสองวันก่อนตอนที่พวกเราทดลองกันออกมาที แล้วก็ลดเทคโนโลยีชิ้นส่วนภายในลง และลดระบบพลังงานของเครื่องยนต์ลงด้วย และตั้งค่าให้วิ่งไปได้ซักสองสัปดาห์ก็เกิดปัญหาด้วย"

 

"ได้ครับ, จากข้อมูลน่าจะแล้วเสร็จในอีกสักพัก"

 

หลังจากที่คิดอยู่สักพัก อู๋ฮ่าวเหรินก็โทรศัพท์หาจื่อหยง

 

"มีปัญหาอะไรอีกล่ะ? ฉันกำลังวุ่นกับการจัดการเรื่องของบริษัทรถยนต์ให้นายอยู่, จนตอนนี้จะหมดแรงแล้วเนี่ย"

 

"เชอะ, คุณอย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ, เรื่องในคราวนี้คุณมีหน้าที่แค่ดูแลเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเท่านั้น, คุณแทบไม่ต้องทำอะไรเลย, แต่เอาไว้ก่อน เรามาเข้าเรื่องกันก่อน, คุณยังจำซ่งยูหมิงได้มั๊ย?"

 

"จำได้สิ, เกิดอะไรขึ้นรึ?"

 

"วันนี้เขามาที่นี่อีกแล้ว แถมมาพร้อบกับระบบรักษาสมดุลรถที่ดีมากด้วย, ผมคิดที่จะวางกับดักเขา และแผนเป็นแบบนี้"

 

หลังจากที่ได้ยินแผนของอู๋ฮ่าวเหริน จื่อหยงก็พบว่าคนๆนี้นั้นเลวมาก แต่นั่นแหละสำหรับเรื่องแบบนี้ ยิ่งเลวยิ่งก็ยิ่งดี เขาจึงได้หารือกับอู๋ฮ่าวเหรินและเพิ่มเติมบางอย่างเข้าไปในแผนด้วย

 

พวกประเทศที่อยากจะได้ข้อมูลนี้ หวังว่าคงจะไม่ทำให้เหล่านักวิจัยมากมายพิการไปเสียก่อนเพราะเทคโนโลยีนี้ก็แล้วกันนะ


     

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น